หากเธอเป็นพระจันทร์แน่นอน ฉันต้องเป็นดาว
เทศกาลวาเลนไทน์เวียนมาอีกครั้ง ก็ต้องเขียนถึงกันหน่อย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันสำคัญของสังคมเลยก็ว่าได้
ต่อให้หลายๆคนจะไม่ให้ความสำคัญ
แต่สังคมต้องให้ความสำคัญแน่นอน
เหตุผลอย่างหนึ่งคือ มัน “ขาย” ได้!
ต้นกำเนิดของวันวาเลนไทน์ หลายๆคนก็คงจะเคยได้อ่านกันบ้างแล้ว
หรือถ้าไม่เคย ก็จง google ซะเดี๋ยวนี้
เราให้เวลาคุณแวะไปอ่านแล้วค่อยกลับมาอ่านต่อกัน
โอเค กลับมาที่ blog นี้กัน
เรื่องราวก็ของ St. Valentine จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่
แต่ทุกวันนี้วันวาเลนไทน์กลายเป็นวันที่สังคม และโลกต่างใส่ความหมายลงไป
ด้วยจุดประสงค์ต่างๆกัน
บางทีก็ต้องการขาย บางทีก็ต้องการสร้างโอกาส หรือสร้างอะไรบางอย่าง
ซึ่งเมื่อยิ่งลงลึกลงไปในปัจเจกบุคคล
ทุกคนต่างมีความหมายของวันวาเลนไทน์ในมุมของตัวเอง
ซึ่งก็หลากหลายตามสถานะของบุคคล
ลองพูดถึงความหมายในสเกลใหญ่
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นตัวแทนของความรักอันสากล
วันที่ทุกคนอยากจะแสดงความรักต่อกันและกัน
เพราะเป็นโอกาส “พิเศษ” ที่เวลาทำอะไรเวอร์ๆ ก็ดูไม่เสร่อ
ดอกไม้ เป็นสิ่งที่ให้กันเพื่อแทนความรู้สึก แทนความรัก
ดังนั้นหนึ่งวันที่ดอกไม้มีคุณค่ามากกว่าวันอื่นๆ
จึงเป็นวันที่ดอกไม้มีมูลค่ามากกว่าวันอื่นๆเช่นกัน
วันนี้เป็นวันหนึ่งที่การแสดงออกทางความรักจะถูกให้ความสำคัญมากกว่าเดิม
การกระทำ การแสดงออกถูกยกระดับให้ เยอะขึ้น และระดับการยอมรับก็เยอะขึ้น
ทำให้ผลลัพธ์มันก็เยอะขึ้นตามลำดับ
สรุปว่า วันนี้เป็นวันที่
อะไรๆ ก็เยอะ ไปหมด…
กลับมาที่เรื่องใกล้ตัวดีกว่า
เรื่องแรกที่ค้นพบคือ
โลกนี้เป็นโลกที่คนโสดมีมากกว่าคนมีคู่
คนผิดหวังมีมากกว่าคนสมหวัง
ตามสถิติแสดงให้เห็นว่า มีคนจำนวนน้อยกว่าที่จะมีอารมณ์ร่วมกับวันนี้
หรือแม้แต่พวกมีคู่แล้ว หลายคนก็ไม่ได้ใส่ใจจะให้ความสำคัญกับโอกาสนี้เหมือนกัน
แต่เหตุที่วันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
เพราะชีวิตของคนส่วนใหญ่เดินไปด้วย “ความหวัง” มากกว่าความผิดหวัง
แม้จะไม่มีความรัก แม้จะเข็ดกับความรัก
แต่คนเราก็ต้องการความรัก และเห็นความรักเป็นสิ่งดี
วันธรรมดาหนึ่งวัน จึงกลายเป็น วันพิเศษ
ด้วยคำว่า
“โอกาสพิเศษ”
“เทศกาล”
หรืออะไรก็ตามแต่
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงกลายเป็นวันที่เต็มไปด้วย สัญญะ
ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ที่ให้กัน
ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่มีต่อกัน
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่ให้กัน
ไม่ว่าจะเป็นช๊อกโกแลต หรือของของอื่นๆที่มอบให้กัน
และอื่นๆอีกมากมาย
ทั้งหมดนี้แทนคำหนึ่งคำที่เรียกว่า “ความรัก”
เราเคยพูดถึงความรักในหลายระดับแล้วครั้งหนึ่ง
สัญญะ เหล่านั้นก็มีระดับของมันที่แสดงออกถึง ความรัก เช่นกัน
ของแต่ละสิ่งให้กับคนที่ต่างสถานะกัน
บางทีเราให้เพราะเรารักในเพื่อน
เราให้เพราะเรารักในพี่น้อง
เราให้เพราะเรารักในครู อาจารย์
แต่น้อยนักที่เราจะให้พ่อแม่ในวันนี้
แต่ในความหมายของโลก
วันนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งวันที่ แฟน สำคัญกว่าพ่อแม่นะ
ดังนั้นก็ไม่ต้องรู้สึกผิดกันให้มากหรอกนะ
ประเด็นสุดท้ายที่อยากจะบอก
คือ เราชอบเทศกาลนี้นะ
แม้ว่าเราจะไม่ได้ตามเทศกาล ไม่ได้ทำไรให้สมกับเป็นเทศกาล
แต่เราชอบบรรยากาศของเทศกาล
ที่คนหลายๆคนต่างตื่นเต้น สรรหาอะไรมาทำ เพื่อให้โลกและชีวิตมีสีสัน
เราคิดว่า โลกนี้มีเรื่องเศร้ากันเยอะแล้ว เราใช้ชีวิตด้วยการต่อสู้กับปัญหา
ดังนั้นไม่ว่าความหมายที่แท้จริงของวันนี้จะโหดร้าย จะเศร้าสักเพียงใด
โลกก็ไม่จำเป็นต้องเศร้าตาม
เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ห่างไกลจากช่วงเวลานั้นเป็นพันปี
แถมเราก็ไม่ได้เคยได้รู้จัก St. Valentine เป็นการส่วนตัว
ก็ไม่รู้จะมีอารมณ์ร่วมไว้อาลัยไปทำไม
การตีความโลกให้เข้าข้างตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ
เพราะจะทำให้เรามีความสุขได้ในปัจจุบัน
แม้มันจะเป็นความสุขภายนอก แม้มันจะเป็นความสุขชั่วคราว
แต่สำหรับบางคน ก็มีความสำคัญสำหรับเขาอยู่มาก
ถ้าเช่นนั้นเราก็จงมอบความรักให้กันในวันนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูกแล้ว
เพราะถ้าทำในวันอื่นๆ มันก็จะดูเสร่อ และเวอร์เล็กน้อย
อีกอย่างหนึ่งที่เราคิดคือ
เพราะเราทำสิ่งพิเศษ ในโอกาสพิเศษ ให้กับคนพิเศษ
มันถึงจะพิเศษ!
ถ้าเราทำสิ่งพิเศษทุกวัน วันหนึ่งมันก็จะไม่พิเศษอีกต่อไป
ขอเล่าอะไรอย่างหนึ่งก่อนปิด blog
เมื่อวานวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554
เราไปงานคอนเสิร์ตที่ มิวเซียม สยาม
มีผู้ชายคนหนึ่งเขาขอวงอาร์มแชร์ ให้เขาได้ขึ้นเวทีไปขอแฟนเขาแต่งงาน
ต่อหน้าคนจำนวนมาก
เราก็ชอบนะ ที่คนเรากล้าทำอะไรแบบนี้
มันเป็นการให้ความสำคัญกับช่วงเวลา และประสบการณ์หนึ่งๆที่สำคัญต่อชีวิตของเขา
มันแสดงถึงการให้ความสำคัญกับความรู้สึก ความพิเศษ และความรักที่ต่อคู่ชีวิต
ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นสิ่งสวยงามอย่างมากเลยนะ
ตามเทศกาล
เราจึงอยากบอกจะทำอะไรให้พิเศษสักหน่อย
เรามอบดอกไม้ให้หนึ่งดอกแล้วกันนะ
ปล. ชื่อ blog มาจาก เพลง เธอคือของขวัญ ของ สิงโต นำโชค
ซึ่งไม่เกี่ยวไรเลย นอกจากเราชอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น