A Method of Time Consuming
ช่วงนี้เขียนอะไรกดดัน เครียด ชวนปวดหัวต่อเนื่องกันมาตลอดblog นี้ จึงขอพักมาเล่าเรื่องตัวเอง เบาๆ บ้างนะ
คือว่า
คนที่อยู่กะเรามา ก็คงรู้ว่า เราเป็นคนเยอะแค่ไหนทั้งๆที่แต่ก่อน ไม่เอาอะไรสักอย่างแต่บทจะเอา แมร่งก็จะเอาทุกอย่าง
หลังจากเรียนจบมาแล้ว หนึ่งปี ผ่านไป
ไม่ได้เป็นปีบัณฑิตแล้ว
ตอนนี้เป็นปี 7 แล้ว
แค่หนึ่งปีที่ผ่านมานี้
เรากลับได้อะไรมากมายอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
หลังจากเรียนออกแบบมา 5 ปี และจบมาโดยตั้งเป้าว่า กูจะไม่เป็น designerทำให้หนึ่งปีที่ผ่านมา เอาเวลาจำนวนมาก ไปลงกับการทำอะไรสนอง need ตัวเอง
ตอนจบมาตั้งใจว่า จะไม่ทำงานประจำชัวร์ๆ
จึงมีเวลาว่างไปทำอะไรตั้งหลายๆๆๆๆอย่าง ที่ไม่ได้เงิน
ทำงานที่ตัวเองอยากทำ แต่บางทีก็ไม่ได้มีมูลค่าอะไร ไม่ได้มีคุณค่ากับใคร
แต่กลับมีคุณค่าในจิตใจ และชีวิตของเรา
ช่วงที่บ้าอะไร ก็จะทำสิ่งนั้นไม่หยุดหย่อนช่วงแรกๆ ก็กลับไปวาดภาพดรออิ้ง ดึงเอาความรู้สึกเดิมๆกลับมา
ต่อมาก็ไปวาดสีน้ำ วาดสีน้ำ อย่างไม่หยุดหย่อน จนรู้สึกสนุกและสะใจ
พอสีน้ำเริ่มแห้ง ก็เปลี่ยนไปวาดการ์ตูน วาดอะไรที่สะใจตัวเอง
พอมี uku ก็ติดมือ เล่นแมร่งตลอดเวลา
จนมาหลังสุดนี้
เริ่มกลับมาทำเซรามิก อย่างจริงจังอีกครั้ง
และนี่แหละ คือสิ่งที่อยากเล่าให้ฟัง
เซรามิก เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเรามากๆ
เป็นการเผาเวลาไปอย่างเชื่องช้า และรวดเร็วในเวลาเดียวกัน
ก่อนหน้าที่จะมาทำงานของตัวเอง ก็ช่วย อ.พิม ทำงานที่สตูดิโอ
หลายๆวัน หลายๆคืน ใช้เวลาไปเรื่อยๆ นั่งหล่อดิน แต่งดิน ลงสี
ใช้เวลานั่งคุยกับ อ.พิม ไปเรื่อยๆ
เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกคุ้มค่ากับชีวิตนี้เหลือเกิน
จนช่วงเปิดเทอมใหม่ งานของ อ.พิม เริ่มเพลาๆลง
ก็เลยเริ่มลงมือทำงานแรกของตัวเองสักที
เริ่มจากนั่งปั้น throwing หลังจากห่างเหินไปนาน
ค่อยๆฝึกปั้น ตั้งศุนย์กันใหม่
วันแรกๆ ก็เบี้ยวสิ้นดี อาทิตย์ และสองอาทิตย์ผ่านไป ก็รู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีขึ้น
จนวันหนึ่งที่ น้องปีสอง เริ่มทำโปรเจคกาน้ำชา
ก็เลยถือโอกาสทำด้วย
พอทำมาชิ้นแรก สองชิ้นแรก แล้วอยู่ดีๆก็รู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก
ก็เลยคิดโปรเจคทำกาน้ำชาเซตใหญ่ขึ้นมา
แล้วก็เริ่มต้นเผาเวลาตัวเอง เอาตัวเองกลับไปหมกตัวอยู่ใน shop เซ เหมือนช่วงทีสิส
แตกต่างกันตรงที่ตอนทีสิส อยู่ชั้นสอง แต่ตอนนี้อยู่ชั้นหนึ่ง
กาหนึ่งใบ ใช้เวลาทำประมาณครึ่งวัน 4-5 ชม.
เป็นกาขนาดเล็กๆ แต่แดกเวลามหาศาล
ในระหว่างนี้ เราถึงได้ทำความรู้จักกับดินมากขึ้น
ค่อยๆคุยกับมันมากขึ้น ทำความเข้าใจถึงนิสัยมันมากขึ้น
เพราะดินก็เปรียบได้กับคน
มีนิสัย มีลักษณะส่วนตัว มีช่วงเวลาที่ยินยอมพร้อมใจ และช่วงเวลาขัดขืน
ถ้ามันยอมเรา เราจะทำอะไรกับมันก็ได้
ถ้าเราดูแลมันดีๆ มันก็จะให้เราทำอะไรกับมันได้นานๆ
แต่ถ้าเราไม่สนใจ ทิ้งขว้าง มันก็ทรยศเรา บางทีก็แตก หัก ให้เราช้ำใจเล่นซะงั้น
.........นี่มึงเป็นแฟนกูป่ะเนี่ย
ตอนนี้ทำไปถึงใบที่ 15 แล้ว ซึ่งคิดว่า อาจจะเป็นใบสุดท้าย
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้เราตระหนัก และเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง
ไม่ว่า จะในฐานะ potter หรือ คนใช้ชีวิต
สิ่งหนึ่งที่เราชอบมากคือ
กาน้ำชาที่เราทำนี้ จริงๆแล้ว มันใส่น้ำชาไม่ได้หรอก
ด้วยเหตุผลว่า จริงๆเราไม่ได้อยากทำให้มันเอามาใส่ได้จริงๆ และข้อจำกัดบางประการ
และอีกเหตุผลหนึ่งคือ
มันเต็มแล้ว
กาน้ำชา เซตนี้
มันอัดแน่นไปด้วยเวลา
การเรียนรู้ แรงกาย แรงใจ พลังความคิด แรงบันดาลใจ
ความรักที่เรามีให้มัน เต็มจนจะล้นกาอยู่แล้ว
เรารักมันมากเลยนะ
ดังนั้นถ้าเราให้ใครไป จงรักษาให้ดีแทนเราด้วยนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น